อยากสูง มีวิธีอย่างไรบ้าง

เรื่องความสูง หลายคน อาจจะมีความกังวล ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ที่ต้องการให้ลูกสูงขึ้น หรือว่ากลัวว่าลูกจะเตี้ยไป หรือในมุมของเด็กเอง (ปกติแล้วจะอยู่ในวัยรุ่น) ที่ต้องการสูง กว่าที่เป็น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ก็มาดูได้ ในบทความนี้กันเลยครับ ^^

แล้วมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง เกี่ยวกับความสูง

 

ปัจจัยความสูงเรื่องของกรรมพันธุ์ ซึ่งมีผล ประมาณ 60-80 เปอร์เซ็น ของความเป็นไปได้ที่ จะเป็นตัวกำหนดความสูงของเรา แต่เดี๋ยวก่อนครับ อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะว่านอกจากนี้แล้วยังมี ส่วนประกอบ อื่นๆ อีกที่ทำให้เรา สูงขึ้น !

ลองมาคำนวณเล่นๆดูว่า ถ้า เป็นที่เรื่องของพันธุ์กรรม เราจะสามารถสูงได้ มากกว่า ที่เราลองคำนวณไว้หรือไม่ วิธีการคำนวณดังนี้ครับ

สำหรับผู้ชาย ให้เรา ใช้ส่วนสูงของ พ่อ + ส่วนสูงของแม่ + 13 ได้เท่าไหร่ให้เอามาหารด้วย 2 จะได้ความสูงเฉลี่ย ได้เท่าไหร่ เก็บไว้ก่อนนะครับ

สำหรับผู้หญิง ให้เราใช้ส่วนสูงของพ่อ + ส่วนสูงของแม่ -13 ได้เท่าไหร่ให้เอามาหาร 2 จะได้ความสูงเฉลี่ย ต่างกันตรงที่ สำหรับผู้ชาย เราใช้ + 13 และสำหรับผู้หญิง เราใช้ +13 ครับ

เมื่อได้คำตอบแล้ว ให้เราลองมาดูไม่ว่าจะเป็น ญาติ หรือว่า คนที่เรารู้จัก ว่า มากกว่า หรือน้อยกว่า ค่าเฉลี่ยความสูง ที่เราได้มา และจากที่ผมลองแล้ว มากกว่าค่าเฉลี่ยนครับ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลไปเรื่องค่าเฉลี่ย เพราะว่า ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ทำให้ สูงได้ ^^ สบายใจแล้วนะไปกันต่อเลยครับ

สำหรับพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง รวมถึงคนที่สนใจต้องการที่จะสูงขึ้น ผมว่า เมื่อได้ข้อมูลแบบนี้แล้ว น่าจะสบายใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้ เรื่องของความสูง จะมี อีกเรื่องนึง ที่เราต้องให้ความสำคัญมากที่สุด คือเรื่องของอายุครับ เพราะว่าถ้าอายุเกิน 22-25 ปี หรือว่า ระบบกระดูก ปิดแล้ว วิธีการที่ทำให้สูง ที่กำลังจะแนะนำต่อไป ก็จะไม่ช่วยครับ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เราต้องดูแลตั้งแต่เด็ก ยิ่งไวและให้ความสำคัญ ยิ่งดี เพราะว่า หากอายุเกินแล้ว วิธีการที่ต้องการให้สูง ก็จะมี เรื่องการผ่าตัดเพิ่มความสูง ซึ่งจะไม่พูดถึงนะครับ

นอกจากเรื่อง พันธุกรรมที่เกี่ยวกับความสูงแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่เราทำได้อีก เช่น การดูแลเรื่อง อาหารที่กินแล้วสูง หรือว่า การออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความสูง ได้ พร้อมแล้วไปดูกันเลย

อาหารเพิ่มความสูง หรืออาหารเสริมความสูง กินแล้วสูง มีอะไรบ้าง

สำหรับเรื่องอาหารแล้ว เป็นอะไรที่เรากินเข้าไปทุกวัน จึงเห็นผล กับร่างกายที่มากที่สุด เหมือนกับคนที่มีอาการภูมิแพ้ ได้เปลี่ยนไปที่อากาศดี ก็จะช่วยเรื่องภูมิแพ้ และหายได้เหมือนกัน

10 อย่าง อาหารเพิ่มความสูง

• ผักโขม เป็นผักที่มีสารอาหาร และมีวิตามินมากมาย เอามาทำอาหารได้หลากหลายอย่าง เช่น ผักโขมอบชีส ไข่ตุ๋นกับผักโขม หรือ กินเป็นสลัดก็ได้

• ถั่วแระญี่ปุ่น เรามักเห็นเป็นของทานเล่น ทั่วไป แต่สำหรับ ถั่วแระญี่ปุ่นแล้ว มีแคลเซียมสูงมาก แค่ 100 กรัม มีแคลเซียมมากเท่ากับการที่เรากินไข่ถึง 4 ฟอง นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูงอีกด้วย เมนูแนะนำ เช่นต้มอบเกลือ หรือนึงแล้วทานได้เลย

• ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองเองมีปริมาณแคลเซียมมากถึง 245 มิลลิกรัม เป็นอาหารที่หาทานง่าย และ ราคาไม่แพงมากมีหลากหลาย เช่น เต้าหู้อ่อน เต้าหู้เหลือง ผัดเต้าหู้

• ผักคะน้า สำหรับผักคะน้าเอง 100 กรัมมีแคลเซียมมากถึง 245 มิลลิกรัม หรือเที่ยบเท่า นม 1 แก้ว เป็นผักที่มีใยอาหารเยอะ ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ด้วย สามารถทำอาหารได้หลากหลาย เช่น จับฉ่าย ผัดคะน้า ข้าวผัด หรือ เราเจอได้ในบ้างร้านที่ใส่ในกระเพรา ที่น่าจะเป็นอาหารประจำชาติเราไปแล้ว ^^

• ผักกระเฉด เป็นผักที่มีปริมาณแคลเซียม มากถึง 387 มิลลิกรม ถ้าเทียบต่อปริมาณ 100 กรัม มากกว่าผักคะน้า และมากกว่า นม 1 แก้วเสียอีกครับ สำหรับผมเองรายการอาหารที่เห็นมากๆ ก็ เอามาผัดไฟแดงครับ หรือว่าเอามาผัดหมี เด็กทานได้ จะดีมาก เพราะถ้าเราเทียบ เรื่องราคา และปริมาณแคลเซียมแล้ว ถือว่าสูงมาก และหาได้ง่ายอีกด้วยครับ

• ใบชะพลู สำหรับใบชะพลู มีปริมาณแคลเซียมสูงมากถึง 601 มิลลิกรับต่อ ปริมาณการทาน 100 กรัม อาหารที่เรา เจอได้ เช่น เมี่ยงคำ แกงใบชะพู

• ยอดแค บ้านไหนที่ทำน้ำพริกปลาทู หรือว่ามีผักต้มจิ้มน้ำพริก ยอดแค คือส่วนของใบครับ มีปริมาณแคลเซียมสูง ถึง 395 มิลลิกรัมต่อการทาน 100 กรัม ^^ มากกว่านมอีกแล้ว เมนูที่เกี่ยวข้อง เท่าที่ผมเห็นคือต้มจิ้มน้ำพริก หรือว่ากินคู่กับอาหารอื่นครับ

• ขี้เหล็ก อันนี้อาจจะเป็นเมนูที่เด็กๆอาจจะไม่ชอบครับ เพราะขี้เหล็กมีรสชาติค่อนข้าง ขม ผู้ใหญ่บางคนยังไม่ค่อยทาน แต่ถ้าหากทานได้จะถือว่าดีมากเลยเพราะว่า มีแคลเซียมสูงถึง 156 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม เมนูที่เหมาะสำหรับขี้เหล็ก เช่น แกงขี้เหล็ก ครับ เท่าที่ผมเห็นนะครับ แต่ว่าถ้าต้องการทำอาหารที่ใช้ ขี้เหล็กเป็นส่วนประกอบจริงๆ สมัยนี้ เราดูเอาจาก ยูทูปได้ครับ ^^

• ถั่วแระ อันนี้นอกจากถั่วแระญี่ปุ่นแล้ว ถั่วแระไทยของเรานี่ก็มีแคลเซียมสูงครับ ถึง 194 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัมครับ หากทานได้ง่าย ราคาถูก หาได้ทั่วไป กินง่ายๆ เพลินๆ เด็กๆชอบกิน

• งาดำ สำหรับงาดำแล้ว มีปริมาณแคลเซียมสูงมากกว่า ที่แนะนำมาทั้งหมดเลยครับ ซึ่งมีปริมาณมากถึง 1469 มิลลิกรัม ต่อปริมาณที่รับประทาณ 100 กรัม อาหารที่ทานง่ายๆ ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เช่นน้ำเต้าหู้งาดำ บัวลอยน้ำขิงงาดำ หรือว่า ไอศกรีมงาดำ ก็ทานง่าย และเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ^^

สำหรับการรับประทานอาหาร ที่มีแคลเซียมแนะนำให้ทานครั้งละน้อยๆ หรือแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ จะทำให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้ดีกว่า อีกอย่างที่แนะนำคือ วิตามินดี มีความสำคัญต่อกระดูกเช่นเดียวกัน เพราะจะช่วย เพิ่มการดูดซึมของแคลเซียมที่ลำไส้เล็ก อาหารที่มีวิตามินดีสูง ได้แก่ ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา เนื้อปลา ที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู จะช่วยให้มีการดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ผิวหนังสามารถสร้างวิตามินดีเพิ่มขึ้นได้จากการได้รับแสงแดดอ่อนๆ เหมือนที่ตอนเด็กๆ เราไปยืนหน้าเสาธง แล้วอาจารย์บอกว่า จะได้รับวิตามินดี นั้นแหละครับ ย้ำว่าแดดอ่อนๆครับ ไม่ร้อน นะอย่างน้อยวันละ 15-20 นาที อาทิตย์ละ 3-5 ครั้ง ถ้า อยากสูง แล้วต้องทำ

และในบทความต่อไป เราจะมาดูกันต่อว่า นอกจากผักแล้ว อาหารประเภทโปรตีน หรือ เนื้อสัตว์ ประเภทใดบ้างที่อยากแนะนำให้ทาน สำหรับ คนที่อยากสูง หรือต้องการเพิ่มความสูง นอกจากนี้เรายังสามารถ เลือกอาหารเสริม ที่ช่วยเรื่องความสูงได้อีกครับ